The Intern ผ่านมาหลายปีแล้ว เห็นคนทำบทความตอนหนังออกใหม่เยอะมากว่าได้เรียนรู้อะไรจากเรื่องนี้บ้าง โดยส่วนตัวดูหลายรอบแล้วเหมือนกัน แต่ทุกครั้งก็ได้อะไรใหม่ๆ กลับมาขบคิดเสมอ ขอลองเล่าในแบบฉบับตัวเองบ้างแล้วกัน พอดีวันนี้เอามาดูอีกรอบ
1. Always be intern
ผมเชื่อว่าทุกคนล้วนเป็นผู้เรียนรู้ตลอดเวลา มันมีแหละชุดความรู้ที่ยังใช้ทำงานได้เป็นหลัก แต่สุดท้ายการเรียนรู้ในแต่ละสถานการณ์เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นตลอด หลายคนอาจจะบอกว่าเทคโนโลยี คงส่วนนึง คุณใช้เวลากับมันได้ แต่ผมเน้นว่าเรื่องคนมาก คนมีตัวแปรหลายอย่างในชีวิตที่เปลี่ยนแปลง เรียนรู้กับคนคือเรื่อง Challenge สำหรับผมนะ
2. Listen, not just hear
ผมคิดว่าจะไม่ใช้คำว่า “บางครั้ง” แต่ “ทุกครั้ง” การรับฟังใครสักคน เป็นเรื่องที่สำคัญมาก มันไม่ใช่แค่ฟังแล้วปล่อยผ่านไป แต่คุณต้องให้เวลาตั้งแต่ก่อนฟัง รับฟัง และหลังฟัง เรื่องนี้คงไม่ต้องอธิบายอะไรมาก หลายคนน่าจะเข้าใจดี ลองจินตนาการถึงคนนึงที่เค้าพูด คือเค้ากำลังให้อะไรบางอย่างกับเรา แต่เรารับของโดยไม่มองหน้าเค้าเลย หรือไม่สนใจแกะกล่องมันด้วยซ้ำ มันไม่ดีเลยเนอะ
3. Don’t let people talk behind you
จริงๆ ผมว่ามันคงห้ามกันยาก แต่ในทางกลับกันก็ทำให้คนรอบตัวคุณกล้าที่จะบอกความจริงกับคุณไม่ดีกว่าหรอ ผมรู้สึกว่า ทำไมกันนะเราถึงทำให้คนมาพูดแง่ลบลับหลังเราด้วย หรือทำไมเราถึงทำให้คนไม่บอกความจริงกับเรา มันน่าเศร้าจัง มันมีช็อตที่เพื่อนร่วมงานของ Ben พูดออกมาหลังจากรู้ว่า Ben เป็น Intern ให้ Jules ว่า “Unfortunately” แค่คิดว่า ควรทำให้คนรอบตัวกล้าจะบอกหรือ feedback เราคงดีกว่าพูดลับหลังเนอะ
4. Know yourself how to contribute, Don’t waiting for chance
เชื่อว่าตัวละครแบบ Ben น่าจะมีคนที่อยากเป็นแบบเค้ามากๆ เพราะเค้าชอบที่จะเรียนรู้ ไม่หยุดนิ่ง กระวนกระวายความอยู่เฉย แต่ Jules เอง ณ ตอนแรกก็ไม่ได้คิดจะ Assign อะไรไป ตัว Ben เองก็อยู่เฉยไม่ได้ ก็วิ่งไปช่วยคนนั้นคนนี้ตลอด ผมเดาเอาเองว่าตัวละครตัวนี้ไม่ได้คิดอะไรมากไปกว่า ทำทุกช่วงเวลาของตัวเอง บทบาทของตัวเองให้ดีที่สุด ไม่ถือตัวใดๆ แม้ว่าจะทำงานกับวัยรุ่น ไม่รู้ก็คือไม่รู้
5. Respect people’s habits
คือผมว่าการเคารพในตัวบุคคลว่าสำคัญแล้ว อาจจะดูเป็นภาพกว้าง แต่ตอนนึงในหนังที่ Ben อยู่ทำงานดึกกับ Jules แล้วก็บออก Ben ว่าไม่ต้องทำถึงขนาดนี้ก็ได้ Ben บอกประมาณว่า “It’s my habit” (จำผิดขออภัยนะฮะ) แล้ว Jules ก็พูดเลยว่า Respect ซึ่งโคตรชอบตรงนี้ ในหนังจะสังเกตได้เลยว่า Ben เป็นคนตอบฉะฉานมาก ตรงไปตรงมา ไม่อ้อมค้อม แต่ยังรักษาระยะห่างและความรู้สึกคนตลอดเวลา
6. We can be vulnerable, not always to be strong
ตรงตามที่ผมเขียนเลย คือมันไม่จำเป็นต้องเข้มแข็งเสมอไปหรอก เราแพ้ได้ เสียน้ำตาได้ อ่อนแอได้ ตลอดเวลาที่หนังดำเนินเรื่องเราจะเห็นสองมุมเสมอของ Jules เวลางานกับเวลาส่วนตัว ในฐานะเพื่อนร่วมงาน (Ben ใช้คำว่า Best friend) Jules เองก็ค่อยๆ กะเทาะส่วนเปราะบางอย่างต่อเนื่อง ตัว Ben เองก็ดีมากๆ ที่ไม่ได้รบเร้าหรือทำให้บรรยากาศเสีย ชอบสอง scene คือตอนที่ Jules มาขอโทษ Ben ที่ร้านกาแฟและขอให้ไปทำงานแบบเดิม (จากใจจริง) ซึ่ง Ben ก็ตอบตกลงแบบ ไม่ใช่ต้องมาถามหาเหตุผล (ผมว่าหลายคนคงน้อยใจได้ แต่ Jules เองก็อธิบายดีด้วย) อีกตอนคือตอนที่บินมา SF แล้วเล่าเรื่องปัญหาส่วนตัว / ถึงตอนนี้จะบอกอะไร ผมว่า คุณสามารถหาใครสักคนเล่า ในวันที่คุณมีปัญหาได้นะ
7. Don’t blame yourself
การทำงานมีผิดพลาดได้ การตัดสินใจที่ไม่ดีคงเกิดขึ้นได้ และความผิดพลาดมันอาจจะเกิดขึ้นจากเราได้แหละ โทษตัวเองได้ไหม ก็คงได้ แต่น่าจะลองถอยหลังออกมาสักก้าวสองก้าว แล้วลองดูว่ามันมีปัจจัยอะไรอย่างอื่นอีกบ้าง (แน่นอนว่าต้องไม่โทษปัจจัยอื่นด้วย) ถอยออกมาเพื่อเข้าใจ แล้วบอกกับตัวเองว่า แล้วยังไงต่อ หาทางออก ผมว่าตรงนี้เอาจริงเจอกับตัวเองก็คงยาก คงทำแบบที่พิมพ์นี้ไม่ได้เหมือนกัน น่าจะต้องกลับไปข้อที่ 6 อีกรอบ
และสุดท้าย คงกลับไปที่ข้อ 1
เราเชื่อว่า ทุกคนยังเป็น Intern กันตลอดเวลานะแหละ 🙂 ผมละคนนึง